วัดสะตือ ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ พระนครศรีอยุธยา
Wat Satue (Phra Buddha Reclining – Luang Pho To), Tha Luang Subdistrict, Tha Ruea District, Phra Nakhon Si Ayutthaya

“สักการะบูชาพระพุทธไสยาสน์กลางแจ้งที่มีขนาดยาวที่สุด ประดิษฐานอยู่ที่วัดสะตือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา สร้างโดยท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี”


 

ที่ตั้งวัดสะตือ
เลขที่ 140 บ้านท่างาม หมู่ที่ ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เจ้าอาวาส พระครูปริยัตยาธิคุณ เจ้าคณะอำเภอท่าเรือ พ.ศ. ๒๕๔๘ – ปัจจุบัน

ประวัติวัดสะตือ ท่าเรือ อยุธยา สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย

วัดสะตือ สร้างขึ้นเป็นวัดนับแต่ พ.ศ. 2400 เดิมตั้งอยู่ทางทิศเหนือขึ้นไปไม่ไกลนัก ที่เรียกว่า วัดสะตือ เพราะมีต้นสะตือใหญ่เป็นนิมิต ต่อเมื่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี ได้มาดำเนินการสร้างพระพุทธไสยาสน์แล้ว วัดสะตือจึงได้ย้ายมาตั้งที่บริเวณพระนอนนี้และ เรียกนามตามชื่อตำบลว่า “วัดท่างาม

กาลต่อมา สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่๕ ได้เสด็จไปทรงนมัสการพระพุทธบาท ได้เสด็จขึ้นที่ท่าตำบลนี้ 2 ครั้ง แต่นั้นมาจึงเรียกตำบลว่า “ตำบลท่าหลวง” และเรียกนามวัดว่า “วัดท่าหลวง” แต่ต่อมากลับไปเรียกว่า “วัดสะตือ” ตามนามเดิมอีก ซึ่งยุติต้องกันกับการเสด็จประพาสต้นครั้งที่ 2 ตามจดหมายเหตุรัชกาลที่ ๕ ระบุไว้ตอนหนึ่งว่า “วันที่ 31 กรกฎาคม ร.ศ. 125 (พ.ศ.2449) ได้กินข้าวกลางวันที่วัดท่างาม ทรงทำครัวและเสวยที่ตรงบริเวณใต้เศียรพระนอนใหญ่ และที่เรียกกันว่า ท่าหลวง นั้นเกิดขึ้นใหม่ เพราะพระจุลจอมเกล้าฯ เสด็จมานมัสการรอยพระพุทธบาท ๒ ครั้ง ขึ้นที่ท่างามทั้ง ๒ ครั้ง ตามพระราชนิพนธ์ รัชกาลที่ ๕ ในจดหมายเหตุเรื่องเสด็จประพาสต้น ครั้งที่ 2 วัดท่างามดังกล่าวนั้นหมายถึง “วัดสะตือ” ในปัจจุบัน และ ที่วัดนี้มีโรงเรียนประถมศึกษาของทางราชการตั้งอยู่ในบริเวณที่ดินของวัด

วัดสะตือได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งหลังวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2498 เขตวิสุงคามสีมา กว้าง 10 เมตร ยาว 24 เมตร

พระพุทธไสยาสน์ วัดสะตือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อนุสรณ์แห่งเจ้าประคุณ “สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรฺหมฺรํสี) ท่านได้ทรงสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ปางไสยาสน์ มีพระนามว่า “พระพุทธไสยาสน์” (แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปมักเรียนว่า “หลวงพ่อโต”) ณ วัดสะตือ ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อไว้เป็นอนุสรณ์ว่าท่านเกิด ณ ที่แห่งนี้ เมื่อปี พ.ศ 2413 ตรงกับในสมัยรัชกาลที่ 5 นามว่า “พระพุทธไสยาสน์”

การก่อสร้างพระพุทธไสยาสน์ ในปีพุทธศักราช 2413 ก่อนที่เจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต จะมรณภาพ 3 ปี สมเด็จฯโตมรณภาพเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2415 (ที่กรุงเทพฯ) ได้มาทำการก่อสร้างพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูนปางพุทธไสยาสน์ ณ หมู่บ้านที่ถือกำเนิดที่วัดท่างาม ปัจจุบันคือ วัดสะตือ ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งพระนอนใหญ่มีขนาด ยาว 1 เส้น 6 วา สูง (ตั้งแต่พื้นถึงรัศมี) 8 วา ฐาน ยาว 1 เส้น 10 วา กว้าง 4 วา 2 ศอก หรือ ยาว 52 เมตร กว้าง 9 เมตร สูง 16 เมตร องค์พระโปร่ง เบื้องพระปฤษฎางค์ ทำเป็นช่องกว้าง 2 ศอก สูง 1 วา สถานที่ก่อสร้างองค์พระประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง ณ ที่ริมคูวัด ด้านตะวันออก ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก

ทางวัดสะตือได้จัดให้มีงานเทศกาล (งานประจำปี) เพื่อปิดทององค์หลวงพ่อโตเป็นประจำทุกปีๆ ละ 2 ครั้ง คือกลางเดือน 5 และกลางเดือน 12 พระพุทธไสยาสน์ หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่มาก และมีอายุการสร้างที่ยาวนาน มีประชาชนจากทั่วสารทิศ เดินทางมานมัสการกราบไหว้ มีการขอพรและโชคลาภต่างๆ ซึ่งมักประสบผลตามที่ตั้งใจขอไว้ หลวงพ่อจะช่วยดลบันดาลอภิบาลรักษาให้ท่านที่เดินทางมานมัสการ มีความอยู่เย็นเป็นสุข มีความเจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคลแก่ตัวท่านและครอบครัว


ภาพบรรยายกาศวัดสะตือ ท่าเรือ อยุธยา
[smartslider3 slider=61]


 

การเดินทางมาวัดสะตือ
ใช้ถนนอ่างทอง-ท่าเรือวิ่งตรงไปผ่านครัวทองแดงวิ่งตรงจนถึงสี่แยกท่าเรือเลี้ยวขวาตรงไปเรื่อยๆ เจอสามแยกเลี้ยวซ้ายตรงไปประมาณ 2 กิโลเมตรจะเห็นทางเข้าวัดวัดสะตือวิ่งตรงเข้าไปตามทางก็จะเห็นวัดสะตือ

Comments

comments