วัดถ้ำพระโพธิสัตว์ ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
Wat Tham Phra Phothisat, Thap Kwang Subdistrict, Kaeng Khoi District, Saraburi
“สถานปฏิบัติธรรม สักการะบูชาพระสถูปเจดีย์ ชมถ้ำธรรมชาติ”
ที่ตั้งวัดถ้ำพระโพธิสัตว์
เลขที่ 1 หมู่10 บ้านถ้ำน้ำพุ ตำบลทับกวาง
อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี 18260
เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.00 – 18.00 น.
ประวัติวัดถ้ำพระโพธิสัตว์
วัดถ้ำพระโพธิสัตว์ แต่เดิมเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของสายพระวิปัสสนากรรมฐาน หรือสายป่า เดิมมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “วัดเขาน้ำพุ” หรือ “ถ้ำพระงาม” เนื่องจากวัดถ้ำพระโพธิสัตว์มีบริเวณอยู่ในเขาน้ำพุ เป็นถ้ำธรรมชาติ ที่มีความสวยงามของหินงอกหินย้อย ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขา รายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ น้ำตก และธรรมชาติที่ร่มรื่น เงียบสงบ สวยงาม ภายในวัดถ้ำพระโพธิสัตว์มีถ้ำอยู่หลายแห่งด้วยกัน แต่ถ้ำที่สำคัญในวัดก็คือ ถ้ำพระโพธิสัตว์ ตามชื่อของวัดนั้นเอง
ซึ่งสำหรับผู้ที่ชอบเข้าวัดปฏิบัติธรรม หาความสงบเยือกเย็น วัดถ้ำพระโพธิสัตว์นับเป็นสถานที่ที่เหมาะอย่างยิ่งในการปฏิบัติธรรมที่ไม่ควรพลาด แต่การเดินทางเข้าถ้ำพระโพธิสัตว์นั้น เราต้องออกแรงเดินขึ้นบันได ขึ้นไปบนเขา ทางชันและไกลนิดสำหรับคนมีปัญหาเรื่องเข่า แต่ก็ไม่ไกลกว่าใจเราที่จะไปถึง แค่เหนื่อย ๆ หอบ ๆ ค่ะ ลองนับก็ประมาณ 257 ขั้นค่ะ และทางเข้าถ้ำจะแคบนิดหน่อย
เมื่อเข้าไปแล้วจะพบกับเจดีย์ปิดทองตั้งอยู่บนฐานหินขัดสวยงาม ซึ่งบริเวณนี้ของถ้ำเป็นส่วนที่มีแสงสว่างส่องถึงมากที่สุด เมื่อแหงนหน้ามองขึ้นไปที่ผนังถ้ำด้านบน เราจะพบเห็นภาพสลักนูนต่ำรูปบุคคลในอิริยาบถต่างกัน ซึ่งเป็นลวดลายศิลปะสมัยทวาราวดี ช่วงราวพุทธศตวรรษที่ 13-14 สันนิษฐานกันว่า น่าจะเป็นภาพตอนที่บรรดาเทพกำลังเฝ้าทูลอาราธนาให้พระพุทธเจ้าแสดงะรรมเพื่อโปรดสรรพสัตว์ในโลก เมื่อทรงแสดงธรรมก็มีทั้ง เทพเจ้า มนุษย์ อสูร และคนธรรพ์มาเฝ้าเพื่อสดับธรรม ดังที่ปรากฏอยู่ในลลิตวิสตระ อันเป็นคัมภีร์แสดงพุทธประวัติ ฝ่ายมหายานนั่นเอง
นอกจากภาพสลักบนผนังถ้ำแล้ว ภายในถ้ำยังมีหินงอก หินย้อย รูปร่างต่างๆ อีกมากมาย และเคยมีนักโบราณคดีสันนิษฐานว่า ถ้ำนี้น่าจะถูกใช้เป็นที่จำศีลภาวนาของนักบวชและฤาษีมาก่อน ส่วนอีกถ้ำหนึ่ง คือ ถ้ำธรรมทัศน์ เสียดายเนื่องจากช่วงที่เราไปฝนตกหนัก มีน้ำเยอะมากค่ะ ทำให้ถ้ำธรรมทัศน์ปิด เนื่องจากจะลื่น และเป็นอันตรายทางวัดจึงแนะนำว่าไม่ควรลงไปค่ะ
ดังนั้น เราจะเดินชมบริเวณรอบ ๆ วัด ก็มีน้ำตก จปร. ซึ่งอดีตเป็นต้นน้ำที่มีน้ำไหลออกมามาก และเป็นจุดที่รัชกาลที่ 5 (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) ทรงเสด็จประพาสทางม้ามาเล่นน้ำ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2439 มีจารึกสลักพระปรมาภิไธยย่อ จปร. 115 และบริเวณรอบ ๆ วัดก็ยังมีต้นไม้ ร่มรื่นมาก ๆ บางต้นอายุกว่า 300 ปีเลยทีเดียวค่ะ แต่ปัจจุบันเนื่องจากภูเขาของวัดถ้ำพระโพธิสัตว์แห่งนี้ ใกล้กับบริเวณที่ได้สัมปทานระเบิดเขา ซึ่งแรงสั่นสะเทือนจะส่งผลเสียหายต่อถ้ำแห่งนี้หรือไม่ แต่ปัจจุบันสภาพน้ำตกเห็นชัดเจนมากว่า เพราะต้นไม้และภูเขาต้นน้ำลดลง ทำให้น้ำตกที่เคยไหลแรงบริในเวณวัดนี้ ปัจจุบันเหลือเพียงแอ่งเล็ก ๆ เป็นธารน้ำไหลเท่านั้น
กิจกรรมต้องห้ามพลาดของทางวัดถ้ำพระโพธิสัตว์
1. เที่ยวชมถ้ำธรรมชาติ
2. ศึกษาธรรมะ ปฏิบัติธรรมวิปัสสนากรรมฐาน
3. ชมภาพหินสลักโบราณในถ้ำพระโพธิสัตว์
4. ชมน้ำตก จปร.
ภาพบรรยากาศวัดถ้ำพระโพธิสัตว์
การเดินทางไปวัดถ้ำพระโพธิสัตว์
โดยทางรถยนต์ จากถนนมิตรภาพมุ่งหน้าไปทางโคราช ถึงโรงปูนนนครหลวงนกอินทรีกลับรถบนสะพาน จากสะพานกลับรถถึงทางแยกระยะทางประมาณ 3 กม. จะเห็นป้ายวัดถ้ำดาวเขาแก้ว ตรงสะพานลอยคนข้ามเลี้ยวซ้ายเข้าไปถึงทางแยกมีป้ายบอกให้เลี้ยวซ้ายไปวัดถ้ำพระโพธิสัตว์ จากทางแยกไปอีกประมาณ 6.5 กม.
#วัดถ้ำพระโพธิสัตว์
#ทัวร์วัดไทย
#ทัวร์วัดไทยไม่ไปคือพลาด
#เที่ยววัดเที่ยวธรรมชาติได้ธรรมะ
เครดิตภาพคุณทิฆัมพร ตันติวิมงคล
